ZEEKR ขยายธุรกิจ พร้อมเซ็นสัญญา กับผู้แทนจำหน่าย 4 ราย

ZEEKR ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมพร้อมประกาศขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์สู่ตลาดประเทศไทย หลังประสบความสำเร็จในการนำรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ ZEEKR มาจัดแสดงมากถึง 3 โมเดลเป็นครั้งแรกที่งาน Bangkok International Motor Show ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งมั่นในการปฏิวัติการเดินทางด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง และมุ่งเน้นที่ความยั่งยืน แบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ZEEKR ได้บรรลุข้อตกลงกับตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพจำนวน 4 ราย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับช่วงแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ ZEEKR อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ZEEKR ได้รับการตอบรับที่ดีจากสื่อมวลชน รวมไปถึงผู้เข้าชมงาน Bangkok International Motor Show ด้วยการจัดแสดงยานยนต์ไฟฟ้าที่ผสานเทคโนโลยีชั้นสูง ระดับพรีเมี่ยม และให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ผลตอบรับเชิงบวกจากผู้เข้าชมงาน และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ปูทางให้ ZEEKR สามารถสร้างฐานที่มั่นที่แข็งแกร่งในตลาดยานยนต์ในประเทศไทย

มร. เป่า จ้วงเฟย Managing Director and Head of Southeast Asia Region เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพทั้ง 4 ราย ถือเป็นก้าวสำคัญในภารกิจของ ZEEKR ในการช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมและประสบการณ์ที่เหนือระดับสำหรับทุกคน

โดยสัญญาตัวแทนจำหน่ายที่ลงนามในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ZEEKR สำหรับการพัฒนาเครือข่าย เพื่อรังสรรค์ประสบการณ์แบบลักชูรี่ในการใช้งานรถยนต์ภายใต้แบรนด์ ZEEKR พร้อมมาตรฐานงานบริการที่เหนือระดับให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย การเริ่มต้นของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ ผู้ใช้งานรถยนต์แบรนด์ ZEEKR และผู้ที่มอบความไว้วางใจทุกท่านจะได้รับการดูแลอย่างเหนือระดับ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดของ ZEEKR เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานหลากหลายรูปแบบของทุกคน

ภายในปี 2567 นี้ แบรนด์ ZEEKR จะมุ่งเน้นไปที่การสรรหา พร้อมแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายให้เสร็จสิ้นจำนวน 20 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมพื้นที่หัวเมืองในทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย    สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเปิดตัวยนตกรรมพลังงานไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ ZEEKR จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ ZEEKR X และ ZEEKR 009 โดยมุ่งเน้นเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขั้นสูงเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ และมุ่งเน้นต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย

ติดตามข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ ZEEKR ในประเทศไทย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และความมุ่งมั่นที่สร้างมาตรฐานยนตกรรมพลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม ให้เป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ของไทย ผ่านช่องทาง Facebook: ZEEKR Thailand และ Instagram: @zeekrtha

ZEEKR แบรนด์เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมระดับโลกจาก Geely Holding Group โดย ZEEKR มุ่งไปที่การสร้างระบบนิเวศแบบสมบูรณ์ด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างให้เป็นมาตรฐานแก่ผู้ผลิตรายอื่นๆ โดย ZEEKR ยึดหลักประสบการณ์สถาปัตยกรรมที่สร้างความยั่งยืน (Sustainable Experience Architecture: SEA) ด้วยการนำเทคโนโลยีระบบการจัดการแบตเตอรี่ พร้อมด้วยนวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งหมดเข้าไว้ร่วมกันค่านิยมของ ZEEKR คือความเสมอภาค ความหลากหลาย และความยั่งยืน โดย ZEEKR มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง

ZEEKR มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ของตนเองตั้งอยู่ที่เมืองโกเธนเบิร์ก หนิงโป หางโจว และเซี่ยงไฮ้ พร้อมด้วยโรงงานผลิตที่ประกอบไปด้วยสิ่งอํานวยความสะดวกที่ล้ำสมัย ผู้ชำนาญการในระดับสากล ทีมวิศวกรรมในประเทศสวีเดน รับผิดชอบในด้านเทคโนโลยีที่เป็นแกนหลักรวมทั้งสถาปัตยกรรมยานยนต์ ระบบส่งกำลัง โครงสร้างช่วงล่าง รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำสมัย (ADAS) ทีมวิศวกรยังได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจสตารท์อัพ ศูนย์นวัตกรรม และสถาบันการศึกษา วิทยาลัยเทคนิคต่างๆ ที่สวีเดน และจากนานาประเทศทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่การเป็นยนตรกรรมที่ยั่งยืนในอนาคต

ZEEKR Global Design ตั้งอยู่ที่เมืองโกเธนเบริก์ และเซี่ยงไฮ้ เป็นสถานที่รวมตัวของทีมงานจากนานาประเทศ หลากหลายเชื้อชาติพร้อมประสบการ์ทำงานจากหลากหลายสาขา รวมถึงการออกแบบภายนอกและภายใน สี วัสดุ การสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานกับจอแสดงผล (human-Machine Interface: HMI) และการสร้างแบบจําลองรูปแบบดิจิทัล และทางกายภาพ

ZEEKR เริ่มส่งมอบรถยนต์ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2564 โดยส่งมอบไปมากกว่า 210,000 คัน ประกอบไปด้วยรุ่น ZEEKR 001 ZEEKR 001 FR ZEEKR 009 ZEEKR X และ ZEEKR 007 แบรนด์ ZEEKR ประกาศแผนการจำหน่ายรถยนต์ในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และตลาดในเอเชีย โดยมีแผนที่เพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีจากนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดโลก