ยลโฉม มาสด้า CX-5 ใหม่ ก่อนขายในไทย พย.นี้

Last updated: 30 พ.ย. 2566  | 

มาสด้า พาสื่อมวลชนร่วมสัมผัส All-New Mazda CX-5 ที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนเปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พย. ศกนี้ ที่เมืองไทย โดยได้สัมผัสถึงข้อมูลอย่างละเอียดและรูปลักษณ์ของ All-New Mazda CX-5 ทั้งยังได้เปิดโอกาสให้ทดลองขับแบบน้ำจิ้มก่อนที่จะมีการนำเข้ามาเปิดตัวในไทย ถือได้ว่าเรียกน้ำย่อยก่อนเจอของจริง โดยรวมสวยขึ้น หรูหราขึ้น พละกำลังโดยรวมยังคงความแรงแต่เน้นไปที่ความเงียบและนุ่มสบายมากขึ้น โดย All-New Mazda CX-5 จะมีเครื่องยนต์เพียง 2 รุ่น ให้เลือก คือ เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร



มาสด้า CX-5 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 ออกแบบภายใต้ KODO Design ผสานเทคโนโลยีใหม่ SKYACTIV TECHNOLOGY จนได้รับการยกย่องว่าเป็นรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์ทรงพลัง ตอบสนองการขับขี่อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งมีสมรรถนะด้านความปลอดภัยสูงสุด ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง มาสด้า CX-5 ได้รับความนิยมจนกลายเป็นโมเดลหลักของมาสด้า ด้วยการทำยอดขายสูงสุดถึงร้อยละ 25 ของยอดขายประจำปีของมาสด้าทั่วโลก จวบจนถึงปัจจุบันมียอดการจำหน่ายไปแล้วกว่า 1.4 ล้านคัน ในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก



All-New Mazda CX-5 การออกแบบด้วยสโลแกนที่ว่า “ความแข็งแกร่งอันปราณีต” หรือ “Refined Toughness” เป็นคำสำคัญที่ท้าทายในการยกระดับแนวคิดการออกแบบภายใต้ KODO Design ให้ก้าวไปอยู่ในระดับที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ผลลัพธ์ที่ได้คือ รูปลักษณ์ภายนอกดูโดดเด่นหรูหรา พรีเมียม ส่วนภายในที่บ่งบอกความรู้สึกอันน่าพึงพอใจ นอกจากนี้สีตัวถัง Soul Red Crystal ใหม่ ยังช่วยเสริมให้การออกแบบของ CX-5 ใหม่ นี้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น



นอกจากนี้ All-New CX-5 ยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ G-Vectoring Control หรือ GVC ซึ่งเป็นระบบแรกภายใต้เทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS รวมไปถึงการปรับปรุงสมรรถนะในการขับขี่โดยตระหนักถึงพฤติกรรมของการเคลื่อนไหว เพื่อให้สอดรับกับทั้งความรู้สึกและความคาดหวังของผู้ขับขี่ ตลอดจนความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ซึ่งทำให้สรีระของผู้โดยสารเกิดการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ห้องโดยสารยังเงียบขึ้นกว่าเดิมจะช่วยให้การสนทนาออกรสชาดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเบาะนั่งด้านหลังให้ความสบายและเกิดประโยชน์ใช้สอยที่ดี และยังมีระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น Active Driving Display ด้วยการแสดงข้อมูลต่างๆ ไว้บนกระจกหน้ารถช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และระบบเชื่อมต่อ MZD CONNECT ให้คุณไม่พลาดในการติดต่อสื่อสาร



รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นและแข็งแกร่ง ให้ความหรูหรากว่ารุ่นก่อนหน้า มีการปรับให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ตลอดจนการปรับระยะห่างของล้อคู่หน้าและระยะห่างของล้อคู่หลังให้กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร ทำให้รูปทรงของ All-New CX-5 เกิดมุมมองที่ทรงพลังมากขึ้น เสมือนรถกำลังยึดเกาะอยู่กับถนนไว้อย่างมั่นคง เสา A ถูกปรับตำแหน่งไปยังด้านหลังประมาณ 35 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และตำแหน่งของเพลาหน้าและเสาเอก็ถูกปรับให้สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม การเคลื่อนไหวอันทรงพลังถูกถ่ายทอดผ่านเส้นสายที่ทอดยาวจากด้านข้างจรดด้านท้ายของตัวรถ รวมไปถึงรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ขยายออกจากประตูท้ายลงไปสู่ล้อคู่หลังทั้ง 2 ข้าง รูปลักษณ์โดยรวมมองจากภายนอกดูต่ำลงในแนวระนาบ ตำแหน่งของโคมไฟหน้าต่ำลงกว่าเดิม และกระจังหน้าแบบใหม่ที่เน้นให้เห็นถึงความกว้างผ่านเส้นสายที่แผ่ออกไปสู่โคมไฟหน้าอย่างมีเอกลักษณ์ เสริมภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น นอกจากนี้ยังใช้สีใหม่ Soul Red Crystal เพิ่มแรงดึงดูดใจ ให้ความรู้สึกสดชื่นและโปร่งใส



ภายในห้องโดยสารเน้นไปที่ “บรรยากาศ” “รูปแบบ” และ “ผิวสัมผัส” เพื่อมุ่งไปสู่บรรยากาศที่คำนึงถึงผู้โดยสารเป็นหลัก เน้นความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารในรถ มาตรวัดทั้งหมดจะอยู่ตรงศูนย์กลางของพวงมาลัย , เบาะนั่งมีมิติความลึกมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับช่องแอร์ที่ถูกออกแบบให้มีมิติความลึกเพื่อแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของรถ SUV ลวดลายบนแผงถูกประดับผสมผสานความอบอุ่นของลายไม้แบบธรรมชาติผสานกับความแข็งแกร่งและความทนทานของโลหะหนังสีดำให้สัมผัสนุ่มและเรียบเนียนรวมไปถึงการเลือกเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีน้ำตาลเพื่อให้เข้ากับวัสดุและสีของเบาะ



มาสด้า CX-5 ใหม่ ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้โดยสารทำให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น คำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการขับขี่และความสะดวกสบายของห้องโดยสาร สำหรับห้องโดยสารด้านคนขับประกอบไปด้วยปุ่มควบคุมต่างๆ ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับการขับขี่ โดยคำนึงถึงการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติของมือและเท้าของผู้ขับขี่ นอกจากนี้คอนโซลกลางและคันเกียร์ถูกปรับให้มีตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 60 มิลลิเมตร เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ตำแหน่งเสาเอที่เอียงไปทางด้านหลัง ช่วยขยายทัศนะวิสัยของการมองเห็นทางด้านขวาและด้านซ้ายของผู้ขับขี่ ในขณะที่กระจกมองข้างออกแบบใหม่ให้มีขนาดเล็กลงจะช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยในแนวทแยงมุมในขณะเลี้ยวรถ นอกจากนี้ยังลดเส้นขอบหน้าต่างให้ต่ำลงกว่ารุ่นปัจจุบัน พร้อมทั้งใช้กระจกหน้าต่างบานประตูหลังแบบบานเดียว เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีเกิดมุมมองและทัศนะวิสัยด้านหลังที่ดีเยี่ยม พนักพิงเบาะหน้าได้รับการปรับปรุงให้มีชิ้นส่วนรองรับและโครงสร้างที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับเอวของผู้โดยสารได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยลดการเคลื่อนไหวของศีรษะและร่างกายส่วนบนให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังใช้เบาะรองนั่งที่มีส่วนประกอบของยูรีเทนโฟมซึ่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้อย่างดีเยี่ยมเพื่อความสบายในการโดยสาร มิติตัวถัง (ความยาว x ความกว้าง x ความสูง) 4,550 mm x 1,840 mm x 1,680 mm (ล้ออัลลอยขนาด 19”) และ4,550 mm x 1,840 mm x 1,675 mm (ล้ออัลลอยขนาด 17”)



All-New CX-5 เป็นผลิตภัณฑ์ของมาสด้ารุ่นแรกที่ติดตั้งพนักพิงเบาะหลังแบบปรับเอนได้ 2 ระดับ อีกทั้งยังปรับระดับความสูงของเบาะรองนั่งให้ต่ำลง และออกแบบรูปทรงของเบาะรองนั่งให้เป็นรูปทรง 3 มิติ เพื่อให้สามารถสอดรับกับสรีระของร่างกายส่วนล่างของผู้โดยสาร พร้อมทั้งเพิ่มช่องแอร์ที่บริเวณคอนโซลกลาง ที่วางแก้วแบบปรับได้ 2 ตำแหน่ง บริเวณคอนโซลกลาง ช่วยเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น พื้นที่เก็บสัมภาระมีขนาดความจุ 505 ลิตร ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันที่มีขนาดความจุ 500 ลิตร



การเชื่อมต่อและการอำนวยความสะดวก หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่ด้านขวามือของชุดมาตรวัดเลือกใช้หน้าจอสีที่มีความละเอียดสูงแบบ TFT LCD ขนาด 4.6 นิ้ว ใช้จอแสดงข้อมูลการขับขี่ Active Driving Display ที่สามารถแสดงข้อมูลจากระบบนำทางผ่านดาวเทียมบนกระจกหน้ารถ หน้าจอแสดงผลกลางขนาด 7 นิ้ว ถูกย้ายขึ้นไปอยู่ตำแหน่งบนสุดของแผงคอนโซลหน้าเพื่อลดการละสายตาของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มาสด้าใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อจอ LCD กับแผงสัมผัสแบบ Optical Bonding ซึ่งจะช่วยลดแสงสะท้อนทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น


All-New CX-5 ยังได้ติดตั้งระบบ MZD CONNECT ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อในรถยนต์สมัยใหม่ที่ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์มือถืออื่นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต และเข้าถึงบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ระบบเครื่องเสียงคมชัดระดับไฮเอนด์พร้อมกับเสียงเบสที่หนักแน่นขึ้น โดยใช้ลำโพง Bose® 10 ตัว ที่ถูกพัฒนาขึ้นร่วมกันระหว่างมาสด้าและ Bose ประกอบด้วยระบบชดเชยเสียงรอบทิศทาง AudioPilot™2 และระบบเสียงเซอร์ราวด์Centrepoint®2


สมรรถนะในการขับขี่ มาสด้าพยายามสร้างรถยนต์ที่เสริมสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างรถกับคนขับ สำหรับ All-New CX-5 ได้รับการปรับปรุงรอบด้าน ไม่เพียงแต่สำหรับผู้ขับขี่เท่านั้น แต่สำหรับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ ความพยายามในการปรับแต่งระบบขับเคลื่อนและการควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ ความสะดวกสบายในการขับขี่และความเงียบ All-New CX-5 มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซินแบบฉีดตรง SKYACTIV-G 2.0 ลิตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีด ระบบส่งกำลังทั้งหมดนี้จะมอบอัตราเร่งที่ทรงพลังและตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมการประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหน้าลื่นไถล



All-New CX-5 ได้ติดตั้งระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-VECTORING CONTROL หรือ GVC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ของมาสด้า ระบบจะทำงานโดยการปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองต่อการทำงานของพวงมาลัย ซึ่งเป็นการควบคุมแบบผสมผสานระหว่างแรงเร่งจากด้านข้างและด้านตามยาวของตัวรถ  และปรับโหลดในแนวดิ่งที่กระทำลงบนล้อแต่ละล้อให้เหมาะสม GVC มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ SUV ช่วยให้ทั้งการตอบสนองและความมั่นคงของตัวรถดีขึ้น ในขณะที่ยังช่วยลดการโยกตัวออกไปด้านข้างของตัวผู้โดยสารและช่วยให้นั่งสบาย


ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้าชนิดติดตั้งที่แกนพวงมาลัยช่วยเพิ่มการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติและความแข็งแรงของระบบบังคับเลี้ยว ระบบช่วงล่างของ All-New CX-5 ด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ส่วนระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ สำหรับช่วงล่างด้านหน้าเพื่อลดความรู้สึกว่าหน้าลอยตัวที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกได้ และลดการสั่นสะเทือนอันไม่พึงประสงค์ที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกได้เมื่อรถเกิดอาการโคลง ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อนที่ด้านหน้าและดิสก์เบรกไม่มีช่องระบายความร้อนในด้านหลัง ทั้งยังเพิ่มฟังก์ชัน Auto-Hold ซึ่งจะช่วยให้ทำรถหยุดนิ่งอยู่กับที่แม้กระทั่งหลังจากที่ผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นเบรก ภายในห้องโดยสารเงียบขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง All-New CX-5 ให้การสนทนาภายในห้องโดยสารในระดับที่ชัดเจนขึ้นประมาณ 10% และลดเสียงรบกวนลงได้ประมาณ 1.3 เดซิเบล เมื่อเดินทางบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ All-New CX-5 เพิ่มความแข็งแรงต่อแรงบิดตัวเพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงพิเศษเพิ่มขึ้น ทั้งบริเวณเสาเอซึ่งใช้เหล็กกล้า 1,180 MPa และบริเวณเสาบี ส่วนด้านข้างซึ่งใช้เหล็กกล้า 980 MPa


ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-ACTIVSENSE สามารถช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงสถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และลดโอกาสในการเกิดความเสียหาย ยังรวมถึงการเริ่มใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยเสริมการรับรู้และการขับขี่ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังยกระดับอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยขณะเกิดเหตุ โดยการปรับปรุงโครงสร้าง SKYACTIV-BODY ที่มีความแข็งแรงสูงให้มีประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกจากหลายทิศทาง และเพิ่มการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงพิเศษ All-New CX-5 ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ All-New CX-5 ใช้ SKYACTIV-BODY ที่มีความแข็งแรงสูงของมาสด้าซึ่งดูดซับและกระจายแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการเสียรูปของห้องโดยสาร ส่วนของเสาเอแข็งแรงขึ้นแต่มีน้ำหนักเบาลงและทำให้เกิดความปลอดภัยในการชนในระดับที่สูงขึ้น โครงสร้างของเบาะหน้าได้รับการปรับปรุงให้สามารถช่วยลดความรุนแรงจากการกระแทกที่จะเกิดขึ้นกับศีรษะ โดยการเพิ่มโฟมโพลีโพรพีลีนที่ด้านในของพนักพิงศีรษะ และปรับปรุงวิธีการติดตั้งของโครงสร้างพนักพิงหลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โครงสร้างของฝากระโปรงและกันชนหน้าช่วยลดอาการบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะหรือบริเวณเท้าของคนเดินถนนเมื่อเกิดการชน ระบบต่างๆจัดเต็มขนาดนี้ แฟนมาสด้ารอเจอตัวจริงพร้อมราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ 13 พย.นี้


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้