เบนซ์ ลีสซิ่ง เผยยอดโตต่อเนื่อง เน้นการบริการลูกค้า

Last updated: 30 พ.ย. 2566  | 


ศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2560 เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้านบริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยบริการดิจิทัลเต็มรูปแบบ และผู้นำด้านการให้บริการด้านการเดินทางที่หลากหลายหลายตลาดในยุโรปและอเมริกา การบริการด้านการเงินและการเดินทางแบบใหม่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถร่วมกันการใช้บริการรถสาธารณะรูปแบบใหม่ และการเช่ารถยนต์ระยะสั้นๆ เป็นรายนาทีในเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งเดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้และได้นำเทคโนโลยีด้านการเดินทางมาปรับใช้ เพื่อตามสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์มากยิ่งขึ้น เช่น “car2go” ผู้นำในตลาดการบริการการเช่ารถยนต์ระยะสั้นในเขตเมืองผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือ “mytaxi” แอพลิเคชั่นเรียกใช้บริการรถแท็กซี่อันดับหนึ่งในทวีปยุโรป “moovel” แอพลิเคชั่นแรกที่ให้บริการด้านการเดินทางเต็มรูปแบบ รวมถึงการจองตั๋วรถไฟทั่วประเทศเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา และ “FlixBus” บริการรถโดยสารเพื่อเดินทางระหว่างเมืองในทวีปยุโรป ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) นอกจากนั้น ลูกค้าจะมีทางเลือกที่จะใช้บริการทางเงินหรือเช่ารถยนต์ที่ตรงตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย  “AutoGravity” เป็นแอพลิเคชั่นให้บริการเลือกรถยนต์และบริการทางการเงินที่ลูกค้าสามารถกำหนดเอง และ “Mercedes pay” ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ เป็นแอพลิเคชั่นสำหรับชำระค่าบริการผ่านสมาร์ทโฟน”




ในด้านของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 6 เดือนแรกนั้น ผลประกอบการของกลุ่ม เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) กว่า 1 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์และมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง15%   อีกทั้งยังมีการให้สินเชื่อใหม่อีกเกือบ 1 ล้านสัญญา เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้จำนวนการให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 4.6 ล้านสัญญา หรือคิดเป็นขนาดสินเชื่อรวม 1.34 แสนล้านยูโร สำหรับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ยังคงมี   ผลประกอบการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดสินเชื่อรถยนต์ใน 6 เดือนแรกอยู่ที่กว่า 33,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดมาก และมีการให้สินเชื่อรถยนต์เมอร์เซดส-เบนซ์ มากกว่า 45% ของยอดขาย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการการให้บริการแบบครบวงจร (one-stop financial service solution) และการบริการทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึง ‘mySTAR Special’ บริการทางเงินเฉพาะลูกค้าเมอร์เซดส-เบนซ์ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของสินเชื่อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และโปรแกรมการประกันภัย ‘MB Protection’ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 71%  เติบโต 8%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปัจจุบันให้การคุ้มครองลูกค้าเกือบ 20,000 ราย




ด้าน ไมเคิล บราวน์ กรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาด เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) เน้น 4 กลยุทธ์หลัก คือ การสร้างความตื่นเต้นและการมีส่วนร่วมของลูกค้า  กลยุทธ์ที่สองการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักของบริษัทฯ กลยุทธ์ที่สามการขยายช่องทางการให้บริการแบบดิจิทัล และกลยุทธ์สุดท้าย “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการใหม่ให้แก่ลูกค้า” นอกจากนี้ทางบริษัทฯ จะให้ความสำคัญในการให้ลูกค้าเลือกข้อเสนอในการคืนรถเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง และกระตุ้นตลาดสินเชื่อรถยนต์ผ่านการที่ลูกค้าเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่อีกด้วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้