สรยท.-TAIA-กรังด์ปรีซ์ชี้ อุตฯยานยนต์ไทยสดใสน่าลงทุน

Last updated: 30 พ.ย. 2566  | 

taia

การจัดกิจกรรม TAIA Meets the Press ในหัวข้อ “ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” โดยสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (TAIA) ร่วมกับ สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)และบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เผยข้อมูลการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังสดใส มั่นใจนโยบายส่งเสริมผลิตรถพลังงานไฟฟ้าในประเทศ ผลักดันไทยเป็นฐานผลิตสำคัญในอนาคต หวังให้จัดตั้งรัฐบาลได้รวดเร็วหลังเลือกตั้ง ต่อยอดแผนพัฒนาภาคการผลิตรถยนต์ไทยไม่ให้สะดุด

 TAIA_Meets_the_Press

นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (The Thai Automotive Industry Association : TAIA) เปิดเผยตัวเลขการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยปี 2565 มีจำนวน 1.88 ล้านคัน  มีอัตราการเติบโต 12% เทียบกับปี 2564 และอยู่อันดับ 10 ของโลก แต่ยังครองแชมป์ผลิตรถยนต์มากที่สุดในอาเซียน เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ 8.50 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 11% และผลิตเพื่อการส่งออก 1.04 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 5.13% ส่วนปี 2566 นี้ TAIA คาดการณ์ผลิตรถยนต์ทั้งสิ้นที่ 1.95 ล้านคัน เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9 แสนคัน และเพื่อส่งออก 1.05 ล้านคัน ส่วนรถจักรยานยนต์ 2.10 ล้านคัน ผลิตเพื่อขายในประเทศ 1.75 ล้านคัน และเพื่อส่งออก 3.5 แสนคัน

นายสุวัชร์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ยังได้กล่าวถึงปัจจัยบวกที่จะมาผลักดันตลาดยานยนต์ภายในประเทศว่า ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นหลังจากโควิด-19 ผ่อนคลาย ทำให้ผู้บริโภคมีรายได้ และมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น การท่องเที่ยวฟื้นตัว มีการลงทุน มีการบริโภคทั้งภาครัฐและเอกชน ภาคการเกษตรขยายตัวทั้งผลผลิตและราคา ตลาดอีคอมเมิร์ซเข้ามามีบทบาทกับการบริโภคและมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งจะส่งผลดีกับตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยตรงด้านแนวโน้มตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตสูง ส่วนหนึ่งมาจากการออกมาตรการมาสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ระยะเวลาโครงการระหว่างปี 2565 - 2569 โดยได้รับสิทธิประโยชน์เงินอุดหนุน 70,000 – 150,000 บาท

นอกจากนี้ยังปรับลดภาษีสรรพสามิตรและภาษีนำเข้า พร้อมทั้งมีข้อกำหนดต้องผลิตภายในประเทศชดเชยการนำเข้ารถไฟฟ้าก่อนหน้านี้ เช่น ยกเว้นอากรชิ้นส่วนสำคัญ 9 รายการ ที่จะนำมาใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับเงินอุดหนุนดังกล่าวอีกด้วย

เนื่องจากราคารถไฟฟ้ามีแนวโน้มต่ำลงต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่สูงมาก เน้นความคุ้มค่าในการใช้งาน เป็นอีกปัจจัยสำคัญให้ตลาดรถไฟฟ้ามีแนวโน้มดี และปัจจุบันนี้ก็มีจำนวน 11 แบรนด์ ได้ทำบันทึกความเข้าใจกับกรมสรรพสามิต (MOU) เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย คือ เอ็มจี, จีดับเบิลยูเอ็ม, โตโยต้า, บีวายดี, มินิ, โวลต, เนต้า และเมอร์เซเดส-เบนซ์” นายสุวัชร์ กล่าว และว่าส่วนของรถจักรยานยนต์มี 3 แบรนด์ คือ ฮอนด้า, เอชเซม และเดโก้ เมื่อแนวโน้มยานยนต์ไฟฟ้าราคาลดลง ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค จะมีส่วนสำคัญต่อสังคมไทย และการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรใหม่อีกด้วย แม้จะมีปัจจัยบวกอยู่หลายส่วน แต่ปัจจัยลบยังคงมีเรื่องของความมั่นใจด้านการเมือง หากหลังเลือกตั้ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างรวดเร็วคงไม่เป็นปัญหา แต่หากการจัดตั้งรัฐบาลมีความล่าช้ากว่าที่คาดการณ์คือราวเดือนสิงหาคม 2566 อาจส่งผลกระทบในเรื่องความเชื่อมั่น รวมถึงเรื่องของสภาวะเงินเฟ้อที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ ซึ่งส่งผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยในหลายๆ ประเทศนั่นเอง

 TAIA_Meets_the_Press

ด้านดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) และประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ มั่นใจงานแสดงรถยนต์มอเตอร์โชว์มีส่วนผลักดันในตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์เติบโตได้อย่างมาก เนื่องจากช่วงของการจัดงานมีทั้งการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และแคมเปญส่งเสริมการขายที่ช่วยกระตุ้นยอดรถยนต์ในแต่ละปีให้เติบโตได้อย่างมาก

โดยเฉพาะการเข้ามาของรถพลังงานไฟฟ้าหรือ รถ EVจากประเทศจีนหลายๆ ยี่ห้อ ทำให้ธุรกิจยานยนต์ของไทยมีความโดดเด่นมากในกลุ่มอาเซียน และคาดว่าจะมีรถ EV จากจีนอีกหลายๆ แบรนด์ที่อยากเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

 TAIA_Meets_the_Press

นายวชิระ เรืองมาลัย สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) กล่าวถึงกิจกรรม TAIA Meets the Press เป็นการประสานงานร่วมกัน 3 ฝ่าย เพื่อให้สมาชิกสมาคมฯ และสื่อมวลชน ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ และเป็นประโยชน์ต่อการรายงานข่าวสาร รวมถึงการสร้าง Content ของสื่อออนไลน์ กระจายให้กับสาธารณะชนได้รับทราบ ซึ่งสรยท.ต้องการให้สื่อมวลชนและสมาชิกสมาคมฯ ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้