ฮอนด้าซิตี้ ใหม่ รถเล็กพลังแรง สมรรถนะเกินตัว

หลังจากที่ฮอนด้า เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ของรุ่น ยอดจองหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มาวันนี้ฮอนด้าจัดกลุ่มพาสื่อมวลชนร่วมทดลองขับ สัมผัสจริง บนเส้นทางสายเหนือ จ.เชียงราย รวมระยะทางประมาณ 200 กม. รถซิตี้คาร์คันนี้ พร้อมขับเคลื่อนพาคุณให้ไปไกลเกินกว่าทุกความคาดหมายและเปิดทุกความเป็นไปได้ มาพร้อมขุมพลัง 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยโดยทางฮอนด้า ได้กล่าวไว้ว่า เครื่องยนต์ลูกที่ติดตั้งในซิตี้ใหม่นี้ เทียบเท่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเครื่องยนต์เดิม ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ CVT ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้ 7 ระดับ และรองรับ E20

 

ดีไซน์ภายนอกสปอร์ต สง่างาม ด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อม LED Daylight และไฟท้ายแบบ LED, กระจังหน้าแบบโครเมียม, เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนทุกสุนทรียภาพให้กว้างขวางกว่าที่เคย มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่ง ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร หรูหราสวยงามด้วยโทนสีดำ หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV), คอนโซลหน้าแบบ Piano Black, มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม เช่น เรือนไมล์พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่, ชุดเครื่องเสียงพร้อมจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

 

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ผสานด้วย Turbo Charger ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว สมรรถนะสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20

 

เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้อง ส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

 

เมื่อได้ทดลองขับ เข้าไปนั่งภายในห้องโดยสารพบว่ามีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ เข้าออกทำได้ง่าย ช่วงวางขาแถวสองกว้างขวาง โดยเฉพาะตำแหน่งที่ นั่งด้านหลัง ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบเบาะนั่งใหม่ เบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง วัสดุคอนโซลมีทั้งแข็งและนุ่ม ที่เป็นพลาสติกและหนัง อีกจุดที่เห็นการเปลี่ยนแปลงคือ ย้ายตำแหน่งกระจกมองข้างจากที่เคยอยู่ตรงเสาเอพิลลาร์ ให้มาอยู่ตรงประตูรถ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ เบาะนั่งตอนหลังมีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วสองตำแหน่ง ในรุ่น RS มีช่องจ่ายไฟ 12V ได้ลองทดลองขับในเมืองคล่องตัวปราดเปรียว เร่งได้ทันใจ เมื่อกดคันเร่งตัวรถจะตอบสนองทันท่วง ได้

 

ทดลองขับบนถนนเส้นทางตรงยาวๆ กดคันเร่งสุดแป้นการตอบสนองมารวดเร็วไม่ต้องรอให้เหนื่อย ข้อดีในจุดนี้ใช้ในการเร่งแซงเลนสวนทำให้มั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น อันนี้คือการทดสอบเพียงระยะทางสั้นๆ เพื่อดูถึงสมรรถนะ ต้องบอกว่าประทับใจกับอัตราเร่งที่มีพละกำลังเหลือเฟือเกินคำว่าอีโคคาร์อย่างมาก ทั้งนี้สามารถทำความเร็วได้เกินคาดหมายซึ่งเกินกว่ากฏหมายกำหนดไว้มาก แล้วก็ผ่อนคันเร่งลดความเร็วลงมาแบบใช้งานจริง เมื่ออัตราเร่งทำมาได้ดีขนาดนี้สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือ เบรก ซึ่งระบบเบรกให้น้ำหนักการเบรกได้มั่นใจ ประทับใจ ควบคุมง่าย เรื่องของการเก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารทำได้ดี มีการเพิ่มฉนวนใต้ห้องเครื่องยนต์อีก 3 เท่า และฉีดโฟมเข้าไปยังโคนเสาเอพิลลาร์ และบีพิลลาร์ ตรงจุดเชื่อมรอยต่อ ทำให้ภายในห้องโดยสารเงียบ ส่วนพวงมาลัยออกแบบได้จับถนัดมือเข้าโค้งเลี้ยวต่อเนื่องมั่นใจพวงมาลัยเฉียบคม ความประหยัดเป็นสิ่งหนึ่งคนขับรถประเภทอีโคคาร์มุ่งหวัง ทั้งนี้ฮอนด้าซิตี้สอบผ่านเรื่องความประหยัดเรียกได้ว่าประหยัดจริง

 

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย ไม่มีเกียร์ธรรมดา โดยมีรุ่น RS ราคา 739,000 บาท รุ่น SV ราคา 665,000 บาท รุ่น V ราคา 609,000 บาท รุ่น S ราคา 579,500 บาท และมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี โดยหากสนใจพิสูจน์ความแรงและความประหยัดด้วยการทดลองขับด้วยตัวคุณเองวันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ