ซูซูกิ CIAZ GL Plus ใหม่ อัดแน่นออฟชั่น ดีไซน์สปอร์ตขึ้น

Last updated: 30 พ.ย. 2566  | 

Suzuki Ciaz เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ด้วยการชูจุดเด่นเป็น ซีดาน อีโคคาร์ ระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน มีจุดเด่นที่ความกว้างขวาง สะดวกสบาย ภายในห้องโดยสารตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา ตั้งแต่เปิดตัวการันตีความนิยม ด้วยยอดขายรวมกว่า 37,000 คัน และเพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและกระตุ้นตลาดรถอีโคคาร์ให้กลับมาคึกคัก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงแนะนำ New Suzuki Ciaz GL Plus ซีดาน อีโคคาร์ ระดับพรีเมียม ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ชูความสปอร์ตเร้าใจและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในที่เหนือระดับ




นอกจากนี้ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เดินหน้ากระตุ้นตลาด New Suzuki Ciaz GL Plus ภายใต้คอนเซปท์ More To Discover พลัสครบทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์ ด้วยการพาสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์ความประหยัดสไตล์ “อีโคคาร์” และความสะดวกสบายในแบบฉบับ “รถซีดาน 4 ประตู” บนเส้นทางกรุงเทพฯ - เพชรบุรี โดยมีจุดสตาร์ท ณ โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา มุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 2 ที่สามารถใช้งานได้ทั้งความเร็วต่ำ และความเร็วสูง เสมือนการใช้งานในชีวิตประจำวัน จนถึงจุดหมายแรก “ปั๊มเอสโซ่วัฒนา-วังมะนาว” แห่งใหม่ เพื่อแวะพักจิบเครื่องดื่ม ก่อนเดินทางย้อนกลับมายัง อำเภออัมพวา ในจังหวัดสมุทรสงคราม แหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงครึกครื้นด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวันกันริมน้ำที่ “รัญจวน อัมพวา” ร้านอาหารไทยพื้นบ้าน บรรยากาศอบอุ่น จากนั้นเดินต่อไปท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เริ่มจาก “อุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือ อุทยาน ร.2” ต่อด้วยการทำบุญไหว้พระ และตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกันที่ “ค่ายบางกุ้ง (วัดบางกุ้ง)” จนอิ่มบุญ สุขใจ และเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วย New Suzuki Ciaz GL Plus




สำหรับ Suzuki Ciaz GL Plus ได้รับการอัพเกรดขึ้นใหม่ โดยติดเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 จอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ USB พร้อมกล้องมองหลัง รูปลักษณ์ภายนอกตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ซึ่งประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง และสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 เสริมด้วยความโดดเด่นจากอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม, ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ กระจกบังลมหน้าแบบสีตัดแสง และกระจกบังลมหลังพร้อมระบบไล่ฝ่าตลอดจนกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับด้วยระบบไฟฟ้า




ภายในห้องโดยสารยังคงเป็นสไตล์ของ Suzuki Ciaz ที่เปี่ยมด้วยความกว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุผ้า พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน เช่น มาตรวัดความเร็ว, รอบเครื่องยนต์, ระบบน้ำมัน และอุณหภูมิน้ำยาหล่อเย็น ซึ่งจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถแจ้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง, ระยะการเดินทาง และอุณหภูมิภายนอก ตลอดจนสัญญาณไฟเตือนต่างๆ บนหน้าจอ อาทิ เตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย, ถุงลมนิรภัย, การปิดประตูไม่สนิท และระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS รวมถึงสัญญาณเสียงเตือนกรณี ลืมปิดไฟหน้า หรือลืมกุญแจไว้ในรถ  ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวก จะประกอบไปด้วย กุญแจรีโมทพร้อมไฟกระพริบตอบรับ, พวงมาลัยสปอร์ตแบบ 3 ก้านปรับระดับสูง-ต่ำได้, กระจกไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ ตามด้วยระบบความบันเทิงจากเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 จอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ USB สามารถเชื่อมต่อเพลงผ่านบลูทูธได้สูงสุดพร้อมกัน 5 เครื่อง พร้อมกล้องมองหลัง ช่วยยกระดับความมั่นใจขณะถอยรถ พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง และเสาอากาศแบบฝังกระจกหลัง รวมถึงฟังก์ชั่นที่เอื้ออำนวยให้ใช้งานได้อย่างง่ายดายจาก ระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อมปุ่มควบคุมบริเวณคนขับ, ที่เปิดฝาท้ายรถแบบไฟฟ้า ซึ่งมากับไฟส่องสว่างห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ ควบคู่ไปกับอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น โครงสร้างตัวถังที่มาพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ทำงานร่วมกับพวงมาลัยแบบยุบตัว และเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ และปรับระดับสูงต่ำได้ โดยมีด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง เสริมด้วยระบบล็อคนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล้กทรอนิกส์ EBD, ระบบช่วยเบรก BA ตลอดจนระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer, ระบบเตือนภัย Security Alarm และชุดซ่อมยางฉุกเฉิน




ด้วยเครื่องยนต์รหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT และการควบคุมที่เฉียบคมด้วยระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนี่ยน พร้อมความนุ่มนวลจากระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันตรัท พร้อมคอยล์สปริง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง ไปจนถึงความมั่นใจจากระบบดิสก์เบรกด้านหน้า และดรัมเบรกด้านหลัง สนนราคา 568,000 บาท


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้