Last updated: 4 ต.ค. 2567 |
จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของการคิดค้นและผสมผสาน นวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีเข้ากับผลงานอันปราณีตพร้อมทั้งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของการประกอบจากช่างฝีมือชั้นสูงชาวญี่ปุ่น ทำให้แบรนด์ Grand Seiko กลายเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ด้วยความพิถีพิถันในรูปลักษณ์อันงดงามทุกรายละเอียด ประกอบกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่เปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์แบบแห่งเรือนเวลา และการพัฒนาในเรื่องความเที่ยงตรงของการบอกเวลาที่เริ่มต้นเรื่องราวมาตั้งแต่ปีค.ศ.1960 จวบจนปัจจุบัน แกรนด์ ไซโก ก็ยังคงรักษามาตรฐาน และสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ให้เหล่าวอทช์ เลิฟเวอร์ ได้ติดตามและเก็บสะสมไว้เป็นสมบัติแห่งกาลเวลาที่ยังคงความล้ำค่าอยู่เสมอ
เพื่อภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของผลงานอันทรงคุณค่านี้ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด จึงประกาศนโยบายการบริหารเพื่อจัดจำหน่ายแบรนด์นาฬิกา “แกรนด์ ไซโก” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังปรับโฉม “ไซโก บูทีค” ใหม่ ณ ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น M, และเปิดเคาท์เตอร์จัดจำหน่ายอีก 3 สาขา ได้แก่ สยามพารากอน ชั้น M, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม ชั้น 3 และในเดือนกรกฏาคมนี้ ณ. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1
โอกาสนี้จึงเนรมิตค่ำคืนสุดพิเศษจัดงานกาล่า ดินเนอร์ ณ ดิ อพาร์เมนท์ ชั้น 9 โรงแรมปาร์ค ไฮแอท แอทเซ็นทรัล เอมบาสซี่ เพื่อฉลองความยิ่งใหญ่ของ “แกรนด์ ไซโก” โดยบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกับคณะผู้บริหารชาวญี่ปุ่น โดยได้รับเกียรติจากพันธมิตรและเหล่าวอทช์ เลิฟเวอร์ มาร่วมแสดงความยินดีและเฉลิมฉลอง โดยมี มิโนรุ อิชิกุโระ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส, โยชิคัตซึ คาวาดะ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทไซโก วอร์ช คอเปอร์เรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ คัตซึมิ คูโบตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) ให้การต้อนรับ พร้อมเล่าเรื่องราวความยิ่งใหญ่และย้อนรอยเปิดตำนานความเป็นแกรนด์ ไซโก อย่างเป็นทางการที่เป็นครั้งแรก งานนี้ยังได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของกลไกอัตโนมัติ ซีรีย์ดัง 9S Caliber ซึ่งเป็นกลไกที่ไซโก ได้ผลิตและคิดค้นขึ้นเองทั้งหมด โดยกว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ระบบขึ้นลานอัตโนมัติในตระกูล 9S ของ แกรนด์ ไซโก นั้นได้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมไว้มากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของความประณีตและความเที่ยงตรงจากการปรับตั้งค่าด้วยมืออย่างละเอียดละออจนครบทั้ง 6 ตำแหน่งการวางตัว และในโอกาสแห่งการฉลอง 20 ปีนี้ แกรนด์ ไซโก จึงนำเสนอเรือนเวลาชั้นเยี่ยมหลายรุ่น อาทิ คอลเลคชั่น Hi-Beat 36000 (ไฮบีท 36000) ที่มีให้เลือกถึง 3 เวอร์ชั่น ได้แก่ Hi-Beat 36000 V.F.A. โดย V.F.A. หรือ Very Fine Adjust เป็นคำจำกัดความที่คิดขึ้นโดยทีมผลิตของแกรนด์ ไซโก ซึ่งถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1969 เพื่ออธิบายความเป็นแกรนด์ ไซโกที่ถูกปรับแต่งจนมีความเที่ยงตง แม่นยำสูงเหนือมาตรฐาน สำหรับนาฬิการุ่นพิเศษรุ่นนี้โดดเด่นด้วยวัสดุตัวเรือนแพลทินัมล้ำค่าที่ผลิตขึ้นเพียง 20 เรือนเท่านั้น ใช้กลไกการเคลื่อนไหวแบบ 9S85 Hi-beat 36000 ซึ่งมีความเที่ยงตรงแม่นยำสูงในระดับ +3 และ -1 วินาทีต่อ 1 วัน หน้าปัดรุ่นใหม่งดงามด้วยการผสมผสานสัญลักษณ์พิเศษที่เคยใช้ในนาฬิกาที่ผลิตเมื่อปี1960
Hi-Beat 36000 Special ความหรูหราของเรือนเวลาที่วัสดุตัวเรือนทอง 18k ที่ผลิตเพียง 150 เรือน ใช้กลไกการเคลื่อนไหวแบบ 10-Beat Movement Caliber 9S85 ที่มีความเที่ยงตรงแม่นยำสูงในแบบมาตรฐานพิเศษ และได้ถูกปรับแต่งตามมาตรฐานพิเศษของแกรนด์ ไซโก จนได้ความแม่นยำในระดับ +4 ถึง -2 วินาทีต่อวัน
สำหรับเรือนเวลาสุดพิเศษทั้งสองเวอร์ชั่นจะแสดงเวลาเป็นชั่วโมง นาที วินาทีด้วยชุดเข็มที่ติดตั้งไว้กึ่งกลางพื้นหน้าปัดสีเงินยวงที่แกะสลักลวดลายเป็นริ้วรัศมีโลโก้ “GS” ของแบรนด์ไว้อย่างประณีตงดงาม และเวอร์ชั่นที่สาม ได้แก่ เวอร์ชั่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่มีความคมคายด้วยการจับคู่กับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินที่ตกแต่งด้วยลายสลักรูปแบบเดียวกัน ผลิตเพียง 1500 เรือน ทั้ง 3 เวอร์ชั่นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 39.5 มิลลิเมตร หนา 13.0 มิลลิเมตร สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 4800 A/M และกันน้ำได้ลึก 100 เมตร โดย Hi-Beat 36000 V.F.A. และ Hi-Beat 36000 Special สลักข้อความ “Caliber 9S 20th Anniversary, Since 1998” ไว้บนขอบฝาหลัง รอบกรอบคริสตัลแชฟไฟร์ที่เผยให้เห็นการทำงานของกลไกที่สามารถสำรองพลังงานได้นาน 55 ชั่วโมง ติดตั้งทับทิมกันการสึกหรอ 37 เม็ด ขัดแต่งอย่างประณีตด้วยมือ ในขณะที่รุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลประทับข้อความไว้บนขอบโรเดอร์ขึ้นลานอย่างลงตัว