เมเจอร์ฯ คว้ารางวัล การันตีผู้นำตลาดอสังหาฯระดับลักซ์ชัวรี่

เสร็จสิ้นการประกาศผลรางวัลอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในงาน “ไทยแลนด์ พรอเพอร์ตี้ อวอร์ดส 2016 ครั้งที่ 11”  (11th Thailand Property Awards 2016) ซึ่งถือเป็นเวทีเกียรติยศที่เปรียบได้กับออสการ์แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย จัดโดย พร็อพเพอร์ตี้กูรู ผู้นำแห่งวงการออนไลน์อสังหาริมทรัพย์ โดยการประกาศผลรางวัลเกียรติยศในปีนี้ มีการคัดเลือกผู้เข้าชิงรางวัลทั้งหมด 36 บริษัท รวมกว่า 200 โครงการร่วมชิงชัย และมี 33 ประเภทที่ได้รับการประกาศผลรางวัล ท่ามกลางผู้เข้าร่วมงานกว่า 600 คน จากผู้บริหารแถวหน้าในวงการอสังหาฯ ของเมืองไทย   


สำหรับไฮไลท์ของการประกาศผลรางวัลในปีนี้ คือ รางวัลบุคคลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ประจำปี  2016 (Real Estate Personality of the Year) ซึ่งได้แก่ ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้โครงการของ เมเจอร์ฯ ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงในประเภทรางวัล Best Ultra Luxury Condo Development (Bangkok)  อีกด้วย โดยดร. สุริยา ได้รับการคัดเลือกจากบรรณาธิการ Property Report ให้เป็นผู้นำของคณะผู้พัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูของประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า “วิสัยทัศน์ที่ปราศจากการลงมือปฎิบัติ มันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน ผมขออุทิศรางวัลผู้แทนอสังหาริมทรัพย์สุดหรูนี้ให้กับเหล่าคนหนุ่มสาวที่ เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ เขาเหล่านั้นได้มีส่วนร่วมในความพยายามสร้างแบรนด์ MJD และเป็นส่วนสำคัญทำให้วิสัยทัศน์ร่วมกันนี้เป็นจริงได้

รางวัลดังกล่าวถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติในการยกย่องบุคคลที่มีส่วนช่วยพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งที่ผ่านมา เมเจอร์ฯ ได้เนรมิตโครงการคอนโดหรูระดับลักซ์ชัวรี่ “MARQUE” และ “MUNIQ Sukhumvit 23” จนเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ระดับประเทศ  นับเป็นผลงานสุดสร้างสรรค์จากวิสัยทัศน์ของ ดร.สุริยา ที่มีแนวคิด  การพัฒนาโครงการ “ทำเลคือจุดยุทธศาสตร์การลงทุน” โดยให้ความสำคัญหลักกับทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง ความมีไลฟ์สไตล์เหนือระดับ และคงความเอ็กซ์คลูซีฟในความแตกต่างที่ถูกออกแบบไว้อย่างลงตัว

สำหรับ โครงการ มาร์ค สุขุมวิท (MARQUE SUKHUMVIT) เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มูลค่ากว่า 6.5 พันล้านบาท   ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งติดถนนใหญ่สุขุมวิทและซอยสุขุมวิท 39   บนพื้นที่กว้างขวางถึง 3 ไร่  กับจำนวน 147 ยูนิต มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด ที่สำคัญคือตั้งอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นไพร์มโลเคชั่น (Prime Location) ที่ดีที่สุดในตอนนี้ เพราะไม่เพียงแวดล้อมด้วยโครงการที่พักอาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ อาคารสำนักงานชั้นนำ โรงแรมหรู โรงพยาบาล ร้านอาหารชื่อดัง  พร้อมพงษ์ยังเป็นย่านของตระกูลเก่าแก่ของบุคคลชั้นนำทางสังคม ทั้งยังอยู่ใจกลาง ดิ เอ็ม ดิสทริค ศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก  นอกจากนี้ยังสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์เพียง 30 เมตร ขณะที่ภายในซอยสุขุมวิท 39  ยังสามารถเชื่อมโยงไปยังซอยย่อยต่างๆ ทะลุออกถนนอโศก ถนนเพชรบุรี รวมถึงซอยทองหล่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และเป็นที่ดินผืนสุดท้ายบนถนนเส้นหลักของสุขุมวิทในการก่อสร้างคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ด้วย

“คอนเซ็ปต์ของ เมเจอร์ฯ คือต้องการจะทำโครงการที่มีความพรีเมียม ซึ่งตลอด 13 ปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เมเจอร์ เป็น Developer ที่เลือกพัฒนาและสร้างเฉพาะโครงการระดับไฮเอนด์เท่านั้น ล่าสุดการเปิดแบรนด์ใหม่อย่างมิวนีค (MUNIQ) ที่เน้นกลุ่มลูกค้า Young Generation และ กลุ่มสตาร์ทอัพ (Startup Generation) เป็นเจ้าของธุรกิจ สนใจความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  ซึ่งคนกลุ่มนี้เลือกให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัย ที่เน้นความเป็นส่วนตัว มียูนิตพิเศษ โดยเลือกสรรเฉพาะวัสดุที่ให้ความพรีเมียม และมีคุณภาพสูง  มีการคมนาคมสะดวก อยู่ใจกลางย่านธุรกิจ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ ทางเมเจอร์ฯ จึงได้ให้นิยามใหม่ว่า “Sensible Luxury” โดยปักธงเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการใหม่สำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพทั้งไทยและต่างชาติ  ” ดร. สุริยา กล่าว 

ทั้งนี้โครงการ “MUNIQ Sukhumvit 23” (มิวนีค สุขุมวิท 23) เป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มพรีเมียมในปัจจุบัน โดดเด่นด้วยดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่รสนิยมดี ภายใต้แนวคิด “LIVE AS ART” ผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบ และการใช้สอยพื้นที่อย่างลงตัว โดยเน้นกลุ่มที่รักการใช้ชีวิตในเมือง เนื่องจากที่ตั้งโครงการฯ อยู่ในย่านที่ถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจอย่างแท้จริง เป็นแหล่งความเจริญ และเป็นไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพฯ แวดล้อมด้วยศูนย์การค้าชั้นนำ อาคารสำนักงานเกรดเอ โรงแรม โรงพยาบาล ร้านอาหาร สถาบันการศึกษาฯลฯ ที่สำคัญยังใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT อโศก จึงเดินทางสะดวกทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ