โตโยต้า เร่งกลยุทธ์ Multi-Pathway พร้อมลุยเปิดรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า (xEV) กว่า 10 รุ่นในเอเชียภายใน 3 ปีหน้า

โตโยต้าเอเชียจัดงาน Toyota Motor Asia’s Media Day ควบคู่ Japan Mobility Show ประกาศกลยุทธ์ระดับภูมิภาคภายใต้วิสัยทัศน์ “Mobility for All” และเป้าหมาย “Carbon Neutrality” พร้อมตอกย้ำแนวคิด “Best in Town” ด้วยเทคโนโลยีคุณภาพสูงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการสัญจรของผู้คนในแต่ละประเทศ

โตโยต้ามุ่งเดินหน้ากลยุทธ์ Toyota Mobility Concept ครอบคลุม 3 ระดับคือ

• Mobility 1.0 ขยายคุณค่าของรถยนต์

• Mobility 2.0 สร้างการเข้าถึงโมบิลิตีในโลกใหม่

• Mobility 3.0 ผสานโมบิลิตีกับระบบสังคม เช่น พลังงานและการจราจร
 
พร้อมยึดแนวคิด “Best in Town” ของ อากิโอะ โตโยดะ ที่เน้นตอบโจทย์การสัญจรเฉพาะพื้นที่ มากกว่าการเพิ่มจำนวนรถยนต์ โดยยกตัวอย่างโครงการ IMV (Innovative International Multi-Purpose Vehicle) ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่แข็งแกร่งทั่วเอเชีย


ในงานแถลงข่าว โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัวรถยนต์ IMV ซีรีส์ใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยการเปิดตัวครั้งนี้จะครอบคลุมถึงการเปิดตัว IMV BEV เพื่อมอบทางเลือกให้กับลูกค้า เป็นการตอบสนองความต้องการรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้าของลูกค้ากลุ่มนี้เพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ของแบรนด์องค์กร เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โตโยต้าเอเชียได้เปิดตัวโครงการ Move Your World ระดับภูมิภาค เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีต่อกลุ่มเป้าหมายในเอเชีย ในระยะต่อไป ในช่วงต้นปี 2026 โตโยต้าเอเชียจะดำเนินโครงการระดับรากหญ้าเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ ดึงดูดผู้มีความสามารถทั่วภูมิภาคให้มาร่วมอุดมการณ์เดียวกันภายใต้แนวคิด Best in Town เรื่องราวนี้จะถูกถ่ายทอดในวัน Media Day ด้วยเช่นกัน


ในงาน Japan Mobility Show ปีนี้ โตโยต้าได้เปิดตัวแบรนด์รถยนต์หลากหลายรุ่น ได้แก่ Century, Lexus, GR, Toyota และ Daihatsu แต่นี่ไม่ใช่แค่การจัดแสดงผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศเจตนารมณ์อีกด้วย โตโยต้าเน้นย้ำถึงบทบาทอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ และการทำงานร่วมกันเพื่อส่งมอบวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมากขึ้นหัวใจสำคัญของปรัชญาของโตโยต้าคือ “Mobility for All” ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่นำทางบริษัทมาตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยลูกค้าเกือบ 10 ล้านคนที่เลือกใช้โตโยต้าในแต่ละปี แต่ละแบรนด์จึงเข้าใจว่า “ทุกคน” หมายความว่าทุกคนสมควรได้รับโซลูชันการสัญจรที่เหมาะสม ซึ่งก็คือการนำเสนอทางเลือกที่เหมาะสมให้กับคุณ เพราะไม่มีใครควรถูกทอดทิ้งไว้

 

โตโยต้าไม่เคยลืมประวัติศาสตร์ของ Ever Better Cars หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จะจัดแสดงในงาน Japan Mobility Show คือ Land Cruiser FJ ที่จะผลิตในประเทศไทย โตโยต้าจะมอบคุณค่าใหม่ในรูปแบบของ “อิสรภาพและความสุข” ที่มาจากความสนุกสนานใน Land Cruiser ในแบบฉบับเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คน

 

โตโยต้าโชว์แนวทาง Multi-Pathway ในงาน Mobility Show มุ่งสู่เป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยการนำเสนอทางเลือกโซลูชันยั่งยืนที่หลากหลาย ตั้งแต่ระบบไฮบริดสำหรับเชื้อเพลิงทางเลือกในอเมริกาใต้ ไฮบริดขนาดเล็กในเอเชีย ไปจนถึงรถซีดานเซลล์เชื้อเพลิงรุ่นใหม่ในญี่ปุ่น สะท้อนปรัชญาการพัฒนาโซลูชันที่ปลอดภัย ทนทาน และสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับความยั่งยืน เพื่อคุณค่าแก่ผู้คนและสังคม

 

โตโยต้าเอเชียเดินหน้ากลยุทธ์ Multi-Pathway ขยายไลน์รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดราคาประหยัด เปิดตัว Yaris ATIV ไฮบริด พร้อมเริ่มผลิตรถ BEV ในไทยและอินโดนีเซีย รวมถึงทดลองใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและโครงการสถานี ไฮโดรเจน ในภูมิภาค

 

ภายใน 3 ปี โตโยต้าตั้งเป้าเปิดตัวรถ xEV กว่า 10 รุ่นในเอเชีย ภายใต้พันธกิจ “30 by 30 mission” เพื่อให้ยอดขาย xEV ครอง 30% ของตลาดอาเซียนภายในปี 2030 คาดลดการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 8 ล้านตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 25 ล้านต้น

 
โตโยต้าเอเชียเดินหน้ากลยุทธ์ลงมือทำจริง มุ่งพัฒนาโซลูชันการสัญจรที่ลดการปล่อยคาร์บอนและตอบโจทย์ทุกคน ด้วยการผสานเทคโนโลยียานยนต์ พลังงาน และข้อมูล ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือในโครงการ CJPT เพื่อยกระดับโลจิสติกส์สู่ยุคข้อมูลและคาร์บอนต่ำ


พร้อมขับเคลื่อนโครงการ Toyota Mobility Foundation (TMF) ทั่วเอเชีย เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านความปลอดภัย ลดปัญหาการจราจร และเพิ่มการเข้าถึงการสัญจร โดยยึดแนวคิดว่า “การสัญจรคือโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน“


มร.มาซาฮิโกะ มาเอดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชียของโตโยต้า ย้ำความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและทันเวลา โดยชี้ว่า การบรรลุเป้าหมาย “Mobility for All” และ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ต้องอาศัยโซลูชันที่หลากหลาย ทั้งด้านยานยนต์ พลังงาน และข้อมูล พร้อมเน้นว่าความร่วมมือคือกุญแจสำคัญในการสร้างระบบนิเวศการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนและสร้างรอยยิ้มให้ผู้คนทั่วเอเชีย