The All-New LEXUS LM นิยามใหม่แห่งความหรูหรา

The All-New LEXUS LM

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมเปิดตัวยนตรกรรม Luxury Mini Van ระดับหรู “The All-New LEXUS LM” ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พร้อมจัดงาน VIP Preview สุด Exclusive สำหรับแฟนพันธุ์แท้เลกซัส โดยมีคนเข้าร่วมงานคับคั่ง
 The All-New LEXUS LM
มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “The All-New LEXUS LM เป็นยนตรกรรมไฟฟ้า “LEXUS Electrified” รุ่นล่าสุด ภายใต้ “LEXUS Chapter of Design Concept” หลังจากความสำเร็จของรุ่น All-New NX, RX และรถ BEV เต็มรูปแบบ รุ่น RZ โดยเลกซัสได้เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2536 และปีนี้เป็นวาระครบรอบ 30 ปีของเลกซัส ขอขอบคุณลูกค้าในประเทศไทยทุกท่าน สำหรับความไว้วางใจ และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง วิสัยทัศน์ของเลกซัสคือ การทำให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เรามุ่งสร้างประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์ โดยเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นความชื่นชอบ เปลี่ยนสมรรถนะให้เป็นความหลงใหล และเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เหนือกว่าจินตนาการ โดยคุณค่าหลักอันสำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งของเลกซัส นั่นคือ “Omotenashi” สื่อถึงจิตวิญญาณการบริการที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งฝังรากลึกในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น การปรนนิบัติลูกค้าให้ผ่อนคลายดั่งการได้พักผ่อนอยู่ในบ้านของตน การเข้าใจความต้องการ และมอบบริการยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมาย
 The All-New LEXUS LM
All-New LEXUS LM จะมาสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเลกซัสในประเทศไทย รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และเป็นรถรุ่นหลักที่มียอดขายลำดับต้นๆ ในกลุ่มรถ Minivan ระดับหรู โดย LM ย่อมาจาก “Luxury Mover” สื่อถึงความตั้งใจในการพัฒนารถรุ่นนี้เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้า ที่ต้องการใช้รถ MPV แบบมีคนขับ วันนี้เรามีความยินดีที่จะแนะนำ “All-New LEXUS LM” ด้วยการออกแบบของเลกซัสเจเนอเรชันใหม่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ นำเสนอทั้งความคล่องแคล่ว ความหรูหรา และความสง่างาม พร้อมที่จะพาทุกท่านไปสู่อีกขั้นของ “Omotenashi” สร้างสภาพแวดล้อมอันผ่อนคลาย ราวกับว่าอยู่ภายในห้องสวีทของโรงแรมสุดหรู หรือห้องทำงานเคลื่อนที่ ยิ่งไปกว่านั้น เอกลักษณ์การขับขี่เฉพาะแบบเลกซัส ยังได้ถูกผสานเข้ากับ The All-New LM นี้ ผ่านพลวัตขับเคลื่อนอันทรงพลังดั่งใจผู้ขับขี่ ความรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัย และความพิถีพิถัน ที่ถ่ายทอดไปยังผู้โดยสารตอนหลัง ขอเชิญท่านร่วมสัมผัส All-New LM ที่จะมอบสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการผ่อนคลายทั้งร่างกาย และจิตใจ และพื้นที่สำหรับแรงบันดาลใจเชิงบวก ทั้งด้านความคิด และการกระทำให้กับทุกท่าน และขอให้เพลิดเพลินไปกับ “Omotenashi” ที่เราตั้งใจมอบให้กับทุกท่านในวันนี้” มร.ยามาชิตะ กล่าวเปิดตัวเลกซัส LM ใหม่ อย่างเป็นทางการด้วยความภาคภูมิใจ
 The All-New LEXUS LM
ด้าน นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า นับจากการเปิดตัว Lexus LM ในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2563 ถือได้ว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของยนตรกรรม Luxury Minivan ไปอีกขั้น ทำให้ Lexus LM กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราอย่างแท้จริง โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ต้องการห้องโดยสารที่มีความสะดวกสบาย พร้อมความประณีต และพิถีพิถันในการผลิตสูงสุด ตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำในประเทศไทย แนวทางการออกแบบ Lexus LM ใหม่ ได้ถูกหล่อหลอม และสะท้อนวิสัยทัศน์ของเลกซัส ภายใต้แนวคิด “Making Luxury Personal” หรือ "การทำให้ความหรูหราเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล" เราได้ยกระดับของความหรูหราขึ้นไปอีกขั้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกวินาทีที่อยู่ภายในห้องโดยสารของ LM จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบ ในวันนี้ผมขอแนะนำ The All-new Lexus LM ใหม่ ผ่านการนำเสนอถึงความสง่างามทั้ง 7 ด้าน ทำให้ Lexus LM ใหม่ แตกต่าง และโดดเด่นอย่างแท้จริง

The All-New LEXUS LM

The All-New Lexus LM: The 7 Magnificence

1.“Sophisticated Exterior” การออกแบบภายนอกใหม่ทั้งหมด สง่างาม และทันสมัย ด้วยแนวทางการออกแบบภายนอก “Dignified Elegancy” เริ่มจากกระจังหน้ารูปแบบ “Lexus’s Resolute Look” ที่นำมาออกแบบให้เป็น “Unified Spindle” พร้อมไฟหน้าที่เฉียบคม ทันสมัย โปรไฟล์ด้านข้างตัวรถที่ยาวขึ้น สะท้อนการออกแบบที่เน้นความสบายของห้องโดยสารตอนหลังเป็นอันดับแรก และโดดเด่นด้วยไฟท้าย L-Signature Light Bar ขนาดใหญ่ เสริมรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง

2. “Grand Interior” ห้องโดยสารภายในที่หรูหรา และประณีต ด้วยการออกแบบที่ยกเอาห้องนั่งเล่น และห้องทำงานมาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกสงบ และสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในรุ่น 4 และ 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังออกแบบโดยให้ความสำคัญกับทุกๆ ตำแหน่งของเบาะนั่งรวมถึงตำแหน่งผู้ขับตามหลักแนวคิด TAZUNA ให้ตำแหน่งของผู้ขับขี่อยู่บริเวณกึ่งกลาง วางทุกอย่างให้โอบล้อมผู้ขับ สามารถเอื้อมใช้งานได้สะดวกไม่ต้องละสายตาจากถนน

3. “First Class Cabin Lounge” ห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส ภายในห้องโดยสารตอนหลังออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ ด้วยแรงบันดาลใจจากที่นั่งเครื่องบินโดยสารชั้น First class พร้อมผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว กระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ หน้าจอขนาดใหญ่ 48 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศ “Mark Levinson Reference 3D Surround Sound System” ช่องเก็บของ ช่องแช่เครื่องดื่ม จุดชาร์จไฟ รองรับทุกความต้องการ เบาะนั่งที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พร้อมระบบควบคุมความร้อน / เย็นของเบาะนั่ง ปรับเอนนอนได้ในองศาที่มากขึ้นกว่าเดิม โอบล้อมสรีระ ให้การซัพพอร์ตได้อย่างเหมาะสม ลดแรงสั่นสะเทือนที่มาจากภายนอกรถ พร้อม “Relaxation Function” ระบบนวดที่ทำให้ทุกการเดินทางผ่อนคลาย สะดวกสบายสูงสุด

4. “Personalized Customization” ฟังก์ชันปรับแต่งเฉพาะบุคคล ความหรูหราที่ตอบสนองทุกรสนิยมส่วนบุคคล พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ Personalized Screen สามารถแยกการนำเสนอเนื้อหาแต่ละบุคคล พร้อมระบบเครื่องเสียงแบบ “2-Zone Audio System” ซึ่งจะแยกระบบเสียงด้านหน้าคนขับ และด้านหลัง ทำให้สามารถรับฟังคอนเทนท์ที่แตกต่างกันได้โดยไม่มีเสียงรบกวนซึ่งกันและกัน การควบคุมฟังก์ชันเฉพาะบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Moon roof หน้าจอ ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสจาก “Overhead Control” และ “Removable Touchscreen Rear Controller”

5. “Comfort and Confidence” สุนทรียภาพ และความมั่นใจในการเดินทาง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรระบบไฮบริดใหม่ 250 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสีล้อแบบ E FOUR ทำให้ได้พละกำลังที่ดีขึ้น เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง GA-K ที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ให้การตอบสนองที่เฉียบคม และการควบคุมที่ดีเยี่ยม พร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่าง ด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วยป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด

6. “World-Class Safety” ความปลอดภัยขั้นสูง สัมผัสความปลอดภัยระดับโลกกับระบบ “Lexus Safety System Plus” พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และกล้องที่กว้างขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และผู้ร่วมทาง

7. “Ultimate Omotenashi” ประสบการณ์ “Omotenashi” สัมผัสจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่นตามปรัชญา “Omotenashi” ด้วยระบบ “Lexus Climate Concierge” ที่จะตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารแต่ละท่านเพื่อปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารโซนนั้นๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับบรรยากาศห้องโดยสารด้านหลัง โดยปรับระบบไฟในห้องโดยสารรวมถึงฟังก์ชันบังแสงจากภายนอกตามอารมณ์ของผู้โดยสารได้ถึง 5 โหมด คือ Dream, Relax, Focus, Energize และ My Original
 The All-New LEXUS LM
ทั้งหมดนี้ ทำให้ The All-new Lexus LM ใหม่ เป็นรถ Flagship จากเลกซัส ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นที่มาของ Tagline เลกซัส LM ใหม่ “Own A World Apart” ที่รังสรรค์ประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษที่ไม่มีใครเทียบเคียง
 The All-New LEXUS LM
เลือกเป็นเจ้าของยนตรกรรม Luxury Mini Van All-New LEXUS LM ใหม่ ได้ 2 รูปแบบทั้งรุ่น 4ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง พร้อมสีภายนอก และสีภายในที่เป็นเอกลักษณ์ สีภายนอก  4 สี คือ สีดำ Graphite Glass Flake  สีขาว Sonic Quartz สีแดง Sonic Agate สีเงิน Sonic Titanium และสีภายใน 2 สี คือ สีขาว Solis White with Copper สีดำ Black with Dark Grey Accents วัสดุตกแต่งลายไม้ ลายไม้ตกแต่งบริเวณแผงประตูลาย “Yabane” และลายไม้ตกแต่งบริเวณพวงมาลัยลาย “Bengala”


ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Lexus LM 350h Executive 4-Seater ราคา 7,590,000 บาท Lexus LM 350h Executive 7-Seater ราคา  6,290,000 บาท

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้