Last updated: 4 ต.ค. 2567 |
นับเป็นทริปใหญ่ ส่งท้ายปี 2560 ที่ค่ายฟอร์ด ได้จัดกิจกรรม “Extraordinary Adventure กับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์” นำสื่อมวลชนร่วมเดินทางไปกับเอเวอเรสต์ รถเอสยูวีสมรรถนะสูง ที่ผสานด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่แบบออฟโรดอย่างครบครัน เพื่อมอบความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุดในทุกสภาพเส้นทาง ที่ประเทศลาว
เริ่มเดินทางกับการบินลัดฟ้าจากกรุงเทพฯ เพื่อไปออกสตาร์ทกันที่ จ.อุบลราชธานี เครื่องแลนดิ้งเหล่าสื่อมวลชนได้พบกับขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่มารอรับเพื่อเป็นพาหนะในการเดินทางจำนวน 15 คัน การเดินทางครั้งนี้ผู้ขับขี่รวมผู้โดยสาร 4 คนต่อคัน บรรทุกสัมภาระ และมีเอเวอเรสต์บางคันบรรทุกเต้นท์นอนบนแร็คหลังคาเพื่อเป็นที่นอนในค่ำคืนแรก การเดินทางเริ่มต้นขับจากอุบลราชธานี วิ่งผ่านเข้าเมืองปากเซ โดยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก ก่อนมุ่งหน้าไปยังสถานที่ไฮไลท์แห่งแรกของทริป คือ น้ำตกแซปองไล โดยคณะสื่อมวลชนได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติบนป่าเขาอันแสนเขียวชอุ่มตลอดเส้นทาง เส้นทางในช่วงแรกสื่อมวลชนได้ร่วมพิสูจน์ถึงสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ด้วยเส้นทางที่ท้าทายโดยมีการขับข้ามลำธารถึง 3 แห่ง ซึ่งฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะด้านการขับขี่อันทรงประสิทธิภาพตามเอกลักษณ์ของฟอร์ด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วีจี เทอร์โบ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร ที่มาพร้อมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ Terrain Management (i4WD with Terrain Management System – i4WD TMS) ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับลุยโคลน พื้นทราย หินกรวดขรุขระ รวมถึงการลุยน้ำข้ามลำธาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ด้วยระบบล็อคเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential (LRD) ประกอบกับความสูงจากพื้นรถถึง 225 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน และความสามารถในการลุยน้ำที่ความลึกสูงสุดที่ 800 มิลลิเมตร ฟอร์ด เอเวอเรสต์ จึงสามารถเอาชนะเส้นทางสุดท้าทายนี้ไปได้อย่างมั่นใจ
คาราวาน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้ขับผ่านเส้นทางออฟโรด และขับลุยลำธารจนมาถึงน้ำตกแซปองไล ซึ่งเป็นน้ำตกอันซีนสุดตระการตาแห่งใหม่ในลาว โดยช่วงที่ไปถึงแสงยามเย็นของดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจึงได้มีโอกาสชื่นชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกและความงามของแสงที่ส่องกระทบกับละอองน้ำ หลังจากที่สมาชิกคาราวานได้อิ่มเอมกับธรรมชาติก็ได้ขับต่อไปยังที่พักคืนแรก ด้วยบรรยากาศแบบแคมปิ้งที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ พร้อมร่วมทานอาหารเย็นก่อนที่เข้าพักในเต็นท์ โดยมีทั้งเต้นท์บนดิน และยังมีเต้นท์ที่ติดตั้งบนหลังคาของรถบางคันโดยกางออกเป็นเต้นท์นอนบนหลังคาของรถเอเวอเรสต์อย่างลงตัว โดยหลังจากทานอาหารค่ำก็แยกย้ายเข้าพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยในวันถัดไป
เช้าวันที่สองได้ออกเดินทางไปยังน้ำตกแซพระ ซึ่งเป็นน้ำตกเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กัน หลังจากนั้นได้มุ่งหน้าไปยังโรงเรียนสมบูนไชย ดอนโขง เพื่อมอบสิ่งของที่จำเป็นให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ พร้อมทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับชุมชนและเด็กนักเรียน จากนั้น ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ เคลื่อนผ่านเนินเขาและเส้นทางคดเคี้ยวที่มีจุดหมายปลายทางเป็นน้ำตกที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศลาวทางตอนใต้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับเส้นทางลาดชันและโค้งจำนวนมาก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงสามารถฝ่าฝันทุกสภาพเส้นทางได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่แบบออฟโรดอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในระดับความเร็วต่อเนื่อง และระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถและเผชิญกับสถานการณ์บนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ สำหรับสถานที่อันซีนแห่งสุดท้ายของวันที่สอง คือ น้ำตกตาดฟาน เป็นน้ำตกสูงใหญ่สองสายที่ไหลขนานลงสู่หน้าผาสูงกว่า 100 เมตร รายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มนานาพรรณในบริเวณอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวแถบที่ราบสูงโบโลเวน เมืองจำปาสัก ป่าแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าสายพันธุ์อนุรักษ์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เสือดาว เสือโคร่ง ช้างป่า ลิง และนกกว่า 300 สายพันธุ์ นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังได้มีโอกาสทดสอบความกล้ากับกิจกรรมซิปไลน์ หรือ โหนสลิงจิบกาแฟ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยท้าทายในแบบเอ็กซ์ตรีม ที่มอบความตื่นเต้นประทับใจเสมือนได้เป็นนกบินอยู่เหนือผืนป่าอันกว้างใหญ่ หลังจากนั้น คณะสื่อมวลชนได้แวะเยี่ยมชมวิถีชีวิตชนเผ่า “ตะโอย” ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่าที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายบริเวณใกล้เชิงเขาท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ชาวตะโอยมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ด้วยจารีตประเพณีการบูชาเจ้าอย่างเคร่งครัดและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยชาวบ้านนิยมปลูกไม้อุตสาหกรรม ไม้ผล กาแฟ และเลี้ยงสัตว์ใหญ่ รวมถึงงานหัตถกรรมและงานผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดเวียงจันทน์
เช้าวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการแวะเยี่ยมชมปราสาทหินวัดพูหรือที่ชาวลาวนิยมเรียกกันว่า ภูเกล้า โบราณสถานสำคัญของประเทศลาว ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 2544 โดยปราสาทหินวัดพูแห่งนี้ มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปีและมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเขมร สร้างขึ้นจากหินทรายและอิฐ ทั้งยังเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงแหล่งอารยธรรมโบราณยาวนานถึง 3 สมัย ได้แก่ อาณาจักรเจนละ อาณาจักรขอม และอาณาจักรล้านช้าง
โดย ศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกเส้นทางและสถานที่ทางธรรมชาติต่างๆ ตลอดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นเส้นทางพิเศษที่ฟอร์ดได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อมอบประสบการณ์ความประทับใจที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพระดับโลก ฟอร์ดให้ความสำคัญกับการนำเสนอรถยนต์สมรรถนะสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่ในทุกรูปแบบบนทุกสภาพเส้นทาง เพื่อมอบความมั่นใจและปลอดภัยสูงสุดตลอดทุกการเดินทาง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ถือเป็นรถเอสยูวีสมรรถนะสูงที่สร้างมาเพื่อเป็นที่หนึ่ง และความภาคภูมิใจของเราที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถลุยไปได้ในทุกเส้นทาง เปิดโลกแห่งการผจญภัยไร้พรหมแดน และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัดได้อย่างแท้จริง