Last updated: 4 ต.ค. 2567 |
ปลายเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โรลส์-รอยซ์ จะนำเสนอปรากฏการณ์ครั้งสำคัญสู่โลกยานยนต์ ด้วยการจัดงานแสดงสุดยอดรถยนต์ระดับตำนาน “The Great Eight Phantoms” รวบรวมรถยนต์รุ่นแฟนทอมชื่อดังซึ่งเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ยานยนต์ตลอดเวลากว่า 92 ปีที่ผ่านมา พร้อมเผยโฉมยานยนต์แฟนทอมรุ่นที่ 8 ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นรถยนต์ระดับสุดยอดลักชัวรี่ที่แท้จริง บริเวณย่านเมย์แฟร์ ณ กรุงลอนดอน และหนึ่งในนั้น คือ โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม III ซึ่งเคยเป็นยานพาหนะคู่ใจของนายพลเบอร์นาร์ด ลอว์ มอนต์โกเมอรี่ แห่งกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สะท้อนภาพลักษณ์และสื่อสารถึงความมั่นคง ความแข็งแกร่ง และความน่าเชื่อถือของผู้เป็นเจ้าของ
พลมาร์แชล เบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี่ คือหนึ่งในทหารที่ได้รับการประดับยศและเหรียญเชิดชูเกียรติมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 และเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดจากชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรในยุทธการแห่งเอล อะลาเมน ครั้งที่ 1 ที่อียิปต์เมื่อปี ค.ศ. 1942 และผลงานอันยอดเยี่ยมต่อชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรในเหตุการณ์วันดีเดย์ เมื่อปี ค.ศ. 1944 ซึ่งในระหว่างการรับราชการทหาร มอนต์โกเมอรี่มีฉายาว่า “นายพลสปาร์ตัน” เนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและเคร่งครัดต่อระเบียบวินัยกับเหล่าทหารในบังคับบัญชาทั้งในและนอกสมรภูมิ ทว่า มีเพียงเรื่องเดียวในชีวิตที่มอนต์โกเมอรี่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด นั่นคือยานพาหนะส่วนตัวของเขานั่นเอง ซึ่งรถยนต์ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดก็คือ โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นายพลมอนต์โกเมอรี่ใช้รถยนต์ โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม ถึง 3 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์แฟนทอมรุ่นที่ 3 และเป็นรุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ V12 แบบ 7338 ซีซี ที่เดินเครื่องได้เรียบลื่นด้วยเพลาลูกเบี้ยวเหนือสูบและระบบจุดระเบิดเชื้อเพลิงคู่รูปแบบใหม่ และที่สำคัญคือเป็นรถยนต์รุ่นสุดท้ายที่เซอร์เฮนรี รอยซ์ ทุ่มเทพัฒนา โดยเขาเสียชีวิตเมื่ออายุ 70 ปีในระหว่างการพัฒนารถยนต์แฟนทอมรุ่นที่ 3 นี่เอง
รถยนต์แฟนทอมรุ่น 3 คันแรก ซึ่งเป็นรุ่นปี 1936 ซึ่ง เฟรเดอริก วิลค็อก เจ้าของบริษัท อิงลิช ทัลบอต มอเตอร์ ได้สั่งให้บริษัท ฟรีสโตน แอนด์ เว็บบ์ รับหน้าที่การผลิต ต่อมา รถยนต์คันนี้ได้ตกเป็นของแผนกคมนาคมของกระทรวงยุทธการอังกฤษ ซึ่งมอนต์โกเมอรี่นำมาใช้เป็นยานพาหนะส่วนตัวจนถึงเหตุการณ์วันดีเดย์ และยังได้มีโอกาสใช้รับส่งบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อย่าง วินสตัน เชอร์ชิลล์, นายพลไอเซนฮาวร์, และกษัตริย์จอร์จที่ 6 ไปยังการประชุมเหตุการณ์วันดีเดย์ ณ ฐานบัญชาการในเซาธ์วิกเฮ้าส์ มณฑลแฮมป์เชอร์ ด้วยความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในพลังแห่งภาพลักษณ์ มอนต์โกเมอรี่ใช้รถยนต์โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม ของเขาในการสื่อสารถึงความมั่นคง ความแข็งแกร่ง และความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาว่าเขาจะยืดหยัดเช่นนี้อยู่เสมอ หากรถยนต์คันโปรดที่แท้จริงของมอนต์โกเมอรี่คือ บัตเลอร์ แฟนทอม III ซึ่งจะนำมาจัดแสดงในงาน Great Eight Phantoms ในลอนดอนครั้งนี้ โดยรถยนต์แฟนทอมคันนี้สั่งผลิตโดย อลัน ซามูเอล บัตเลอร์ ประธานบริษัท เดอ ฮาวิลแลนด์ แอร์คราฟท์ ผลิตตัวถังโดยบริษัท เอชเจ มัลลิเนอร์ ในย่านคริสวิก ความโดดเด่นของรถยนต์คันนี้อยู่ที่กระจกหน้ารถที่มีความเอียงลาด ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ได้ถึง 15% เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์แฟนทอมรุ่นมาตรฐาน อีกทั้งการติดตั้งยางอะไหล่และการออกแบบส่วนท้ายของตัวรถยังช่วยเพิ่มความรู้สึกลื่นไหลของรถยนต์คันนี้ได้เป็นอย่างดี\
หลังสงครามสงบ มอนต์โกเมอรี่ได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองเสนาธิการแห่งจักรวรรดิอังกฤษ และภายหลังได้เป็นผู้รักษาการแทนนายพลดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งมอนต์โกเมอรี่ใช้รถยนต์บัตเลอร์ แฟนทอม III เป็นยานพาหนะหลักในการเดินทางอย่างเป็นทางการต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ทั้งการไปเยือนสถานที่สำคัญอย่างบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง, สำนักงานการสงครามในพระราชวังไวต์ฮอล, เช็คเกอร์ สถานที่พำนักในชนบทของนายกรัฐมนตรีแห่งอังกฤษ และศูนย์บัญชาการทหารหลายแห่ง อาทิ สำนักงานนอร์ธวู้ดในมณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ และ กองบังคับบัญชาสูงสุดแห่งชาติพันธมิตรยุโรปของนาโตในร็อคเคนคอร์ท ใกล้กับพระราชวังแวร์ซายในฝรั่งเศส เมื่อเร็ว ๆ นี้ รถยนต์โรลส์-รอยซ์ บัตเลอร์ แฟนทอม III ได้รับการตกแต่งใหม่แบบยกเครื่องที่ พี แอนด์ เอ วู้ด ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญของโรลส์-รอยซ์ ในมณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ แฟนโรลส์-รอยซ์และผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสสุดยอดยานยนต์แห่งประวัติศาสตร์คันนี้ได้ที่งาน “The Great Eight Phantoms” หลังจากนั้น รถยนต์คันนี้จะถูกนำไปจัดแสดงที่งาน Pebble Beach Concours d’ Elegance ที่สหรัฐอเมริกา ในเดือนสิงหาคม ก่อนส่งคืนแก่เจ้าของคนปัจจุบันต่อไป งานแสดงสุดยอดรถยนต์ระดับตำนาน “The Great Eight Phantoms” ของโรลส์-รอยซ์ กำหนดจัดที่บริเวณย่านเมย์แฟร์ใจกลางกรุงลอนดอน ปลายเดือนกรกฎาคมนี้
10 ต.ค. 2567
11 ต.ค. 2567