ฟอร์ด เรนเจอร์ แร๊พเตอร์ พาหนะสุดแกร่งกับการเดินทางเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน


Last updated: 30 พ.ย. 2566  | 

นับว่าเป็นทริปใหญ่รับต้นปี สำหรับการเดินทางบนเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามัน กับชื่อทริป “Ford Ranger Raptor-The Mysterious Journney” ซึ่งทีมฟอร์ดรังสรรค์เส้นทางหลากหลายรูปแบบให้สื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะของแร๊พเตอร์อย่างเต็มเปี่ยม ผสานการเดินทางที่มีกิจกรรมเข้ามาร่วมคลุกเคล้าสร้างความรู้และความสนุกสนานโดยกิจกรรมครั้งนี้รวม 3 วัน 2 คืน ซึ่งได้ทั้งการสัมผัสสมรรถนะรถ การได้รับความรู้จากการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงความสนุกสนานและมิตรภาพของผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้



ฟอร์ด ประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสดินแดนลึกลับกับธรรมชาติอันสวยงามที่แฝงตัวอยู่บนเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามัน กับ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” ด้วยการออกแบบที่มีดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เป็นหัวใจหลัก ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ทำลายทุกข้อจำกัดของเทคโนโลยี นวัตกรรม และความตื่นเต้นในการขับขี่ กระตุ้นอะดรีนาลีนของการขับรถออฟโรดให้สูบฉีบด้วยความเร้าใจ ตลอดเส้นทางบนชายฝั่งทะเลอันดามันอันท้าทายและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์  ณ จังหวัดภูเก็ต-พังงา-สุราษฎร์ธานี



เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ ด้วยคาราวาน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มุ่งหน้าไปยังเขาหน้ายักษ์ อุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง-เขาลำปี อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา จุดหมายแรกเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่เงียบสงบ มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสตลอดชายหาดยาวกว่า 13 กิโลเมตร ทั้งยังมีโขดหินขนาดใหญ่ถูกทับถมสะสมมาเป็นเวลานับล้านปี ปรากฏร่องรอยลวดลายสวยงามแปลกตา ด้วยรูปร่างของภูเขามีหน้าผาคล้ายใบหน้ายักษ์ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ โดยการเดินทางมาสัมผัสความงามของเขาหน้ายักษ์ต้องใช้การขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น สื่อมวลชนจึงใช้ระบบ 4x4 Terrain Management System (TMS) ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โดยเลือกใช้โหมดโคลน/ทราย พร้อมกับ 4x4 High หรือ 4x4 Low ทำให้การเดินทางเข้าไปยังจุดหมายได้อย่างง่ายดาย ต่อมาได้เดินทางลงเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม เพื่อข้ามไปยังเกาะคอเขา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่ทอดตัวทางทิศตะวันออกและหาดทรายขาวทางทิศตะวันตก และยังมีร่องรอยความเจริญของวัฒนธรรมในอดีต จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดี เดิมที่นี่เป็นเส้นทางการค้าข้ามคาบสมุทรของชาวอินเดีย จีน อาหรับ และมลายู เนื่องจากเป็นเมืองท่าค้าขายและที่จอดเรือหลบมรสุม บ่งบอกประวัติศาสตร์ของเกาะแห่งนี้ที่มีมานานนับพันปี



วันถัดมา สื่อมวลชนรับฟังการบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รวมถึงโปรแกรมการเดินทาง เมื่อออกเดินทางสื่อมวลชนได้ทดสอบระบบ Terrain Management System (TMS) ในโหมดการขับขี่ออฟโรดสุดท้าทายในรูปแบบต่างๆ ทั้งโหมดหญ้า/กรวดหิน (Grass/Gravel) ซึ่งออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่เป็นกรวดและพื้นผิวลื่น  การใช้โหมดหิน (Rock) พร้อมกับ 4x4 Low  สำหรับการปีนป่ายหินในทางลาดชัน รวมถึงโหมดบาฮา (BAJA) การขับขี่ออฟโรดความเร็วสูง ที่มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX Shock เพื่อซับแรงกระแทกเมื่อขับขี่บนเส้นทางที่เป็นกรวด หญ้า ทรายและเป็นหลุมเป็นบ่อ



จากนั้น สื่อมวลชนได้ร่วมกิจกรรมแรลลี่เกมล่าสมบัติ ค้นหาแหล่งโบราณคดีและพันธุ์ไม้หายากบนเกาะคอเขา แหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึก ในบริเวณนี้มีซากอาคารโบราณสถานอยู่ถึง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังได้พบฐานเทวรูป สัญลักษณ์รูปเคารพในศาสนาพราหมณ์ เหรียญเงินอินเดีย เศษภาชนะดินเผาที่ผลิตในสมัยราชวงศ์ถังของจีน และเครื่องแก้วของชาวเปอร์เซีย จากโบราณวัตถุที่พบเป็นจำนวนมาก จึงสันนิษฐานได้ว่า แหล่งโบราณคดีแห่งนี้อาจจะเป็นศูนย์กลางในการค้าขายของศรีวิชัย นอกจากสื่อมวลชนจะได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบผจญภัยสุดเร้าใจทั้งตลอดกิจกรรมเกมล่าสมบัติ ยังได้ชมทัศนียภาพอันแปลกตาของพื้นที่ พร้อมทั้งต้นไม้ที่หายากเช่นดอกบัวบา ดอกบัวที่มีขนาดเล็กที่สุดและต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ขึ้นอยู่จำนวนมาก ก่อนจะเข้าที่พักเพื่อรับประทานอาหารค่ำและร่วมงานปาร์ตี้โจรสลัด



เช้าวันที่สามเดินทางไปยังท่าเรือบ้านน้ำเค็มข้ามเรือเฟอร์รี่เพื่อไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งระหว่างทางได้เยี่ยมชม กะปง แกรนด์ แคนยอน ประติมากรรมธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงต่ำไม่เท่ากัน ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการทำเหมืองแร่ในสมัยก่อนที่มีการขุดหาแร่ดีบุก ด้วยระบบเหมืองฉีด จึงทำให้มีกองทรายอยู่จำนวนมหาศาล ต่อมาถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายเป็นพื้นที่รูปร่างแปลกตากว่า 50 ไร่ เป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน ในดินแดนหินผาที่ดูคล้ายสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องลือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในการเดินทางสื่อมวลชนได้ใช้ระบบ Terrain Management System (TMS) โหมดการขับขี่โคลน/ทราย โดยจากนั้นสื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบและสัมผัสสมรรถนะการขับขี่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ บนเส้นทางธรรมชาติภูเขาหินปูนที่สลับซับซ้อนอันสวยงามและท้าทาย ก่อนออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เพื่อกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ



สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เทคโนโลยีล่าสุด มอบพละกำลัง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น และการเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไว พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Terrain Management System (TMS) ลุยทุกเส้นทางหฤโหด รวมถึงระบบกันสะเทือนที่มาพร้อมโช๊ค FOX Shock ที่ช่วยซับแรงกระแทกในการขับขี่


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้