เปิดศึก “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” ร่วมส่งกำลังใจเชียร์นักกอล์ฟไทย

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ ไอเอ็มจี ประกาศพร้อมเปิดศึกดวลวงสวิงนักกอล์ฟสตรีใน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” ระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2561 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส ภายใต้แนวคิด “กล้าที่จะฝัน” โดยมีนักกอล์ฟหญิงระดับโลกกว่า 60 คนจากแอลพีจีเอทัวร์ ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน รวมถึง 2 โปรกอล์ฟสาวไทย “โม-โมรียา จุฑานุกาล” และ “เม-เอรียา จุฑานุกาล”



พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรีในประเทศไทย เป็นหนึ่งในการแข่งขันกีฬาประจำปีที่หลายคนตั้งตารอ และเป็นกีฬาที่สร้างแรงบันดาลใจและความรักในกีฬากอล์ฟให้นักกอล์ฟเยาวชนไทย   ฮอนด้าเชื่อมั่นในพลังของความฝัน และต้องการส่งเสริมการสร้างความมั่นใจในตัวเองและสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วไปจึงได้จัดการแข่งขันนี้มาอย่างต่อเนื่อง นักกอล์ฟหญิงที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ นับได้ว่าเป็นตัวอย่างของคนที่มุ่งมั่นทำตามความฝันเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ ผู้ชมเองก็จะได้เห็นฝีมือของนักกอล์ฟเหล่านี้ รวมถึงนักกอล์ฟหน้าใหม่ที่มีความสามารถ



ในปีนี้ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 มีเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 57 ล้านบาท ความร่วมมือกันระหว่างฮอนด้า ไอเอ็มจี และแอลพีจีเอ จะทำให้การจัดการแข่งขันมีมาตรฐานระดับสากลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่นักกอล์ฟไทย ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นพัฒนาการที่ดีมากในวงการกอล์ฟ เริ่มจากการแข่งขันครั้งแรกเมื่อ 12 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีนักแข่งชาวไทย มาจนวันนี้มีโปรกอล์ฟหญิงชาวไทยมากถึง 14 คนเข้าร่วมชิงชัยในการแข่งขันระดับโลก ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างมาก และเราต้องการสานต่อความสำเร็จนี้เพื่อผลักดันการพัฒนานักกอล์ฟต่อไปโดยเฉพาะนักกอล์ฟเยาวชน เพื่อก้าวสู่ทัวร์นาเมนท์ระดับโลก

นอกจากจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาแล้ว การแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ยังประสบความสำเร็จในการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวต่างชาติในฐานะศูนย์กลางของกอล์ฟ (golf destination) และสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของโลก เนื่องจากผู้คนมีเสน่ห์น่ารัก เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับนักกอล์ฟและนักท่องเที่ยวครบครัน  การแข่งขันกอล์ฟรายการนี้จึงมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของภาครัฐ ในปีนี้ จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันรวมทั้งสิ้นเป็นระยะเวลากว่า 200 ชั่วโมง ไปยังกว่า 150 ประเทศทั่วโลกและผู้ชมกว่า 550 ครัวเรือน ผ่านเครือข่ายของ อสมท ซึ่งได้รับสิทธิ์เป็นผู้ถ่ายทอดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เปิดโอกาสให้ชาวไทยได้รับชมการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ได้อย่างเต็มอิ่ม